มะเดื่อ/มะเดื่อฝรั่ง (Fig)
มะเดื่อ เป็นพืชสกุลเดียวกับไทร และโพธิ์ คือ สกุล Ficus และวงศ์ Moraceae ที่มีมากกว่า 1,000 ชนิดทั่วโลก มีถิ่นกำเนิด และแพร่กระจายในประเทศเขตร้อนในทุกทวีป แต่พบมากในแถบประเทศเอเชีย โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างไม้สกุลนี้ ได้แก่
1. มะเดื่อฝรั่ง (พันธุ์จากต่างประเทศที่นิยมปลูกรับประทานผลมากที่สุด)
2. มะเดื่อปล้อง (Ficus hispida Linn. f.)
3. มะเดื่ออุทุมพร (Ficus racemosa Linn.)
4. มะเดื่อขน (F. hirta Nahl)
5. ตีนตุ๊กแก (F. pumila Linn.
มะเดื่อฝรั่ง
• วงศ์ : Moraceae (วงศ์เดียวกับหม่อน)
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus carica L.
• ชื่อสามัญ : Fig
• ชื่อท้องถิ่น : มะเดื่อฝรั่ง, มะเดื่อเทศ
ที่มา
ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
มะเดื่อฝรั่งไม้ผลกึ่งร้อน (Subtropical fruit) ผลัดใบ ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศทวีปเอเชียตะวันตก และบริเวณทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ที่มา : (1) )
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
มะเดื่อฝรั่ง เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งมากเป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง ลำต้นสูงประมาณ 3-10 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีเทาอมน้ำตาล และมียางสีขาว ส่วนแก่นไม้เป็นไม้เนื้ออ่อน ไม่นิยมใช้ในการก่อสร้างหรือแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์
ใบ
มะเดื่อฝรั่ง เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบออกเดี่ยว เรียงสลับกันตามปลายกิ่ง มะเดื่อออกเป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวมีความกว้าง 20-25 เซนติเมตร และยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างหนา และค่อนข้างแข็ง แผ่นใบขรุขระสากมือ แผ่นใบด้านล่างมีขนปกคลุม ส่วนขอบใบหยักลึก 3-7 หยัก
ดอก
มะเดื่อฝรั่งมีดอกคล้ายผล ที่ทำให้มองเห็นเป็นดอกเดี่ยว แต่แท้จริงคือดอกรวมที่เจริญจากส่วนของก้านช่อดอกบริเวณฐานรองดอกพัฒนามาหุ้มดอกไว้ ด้านบนดอกมีช่องเปิด ภายในดอกมีดอกย่อยจำนวนมาก
ผล และเมล็ด
ผลมะเดื่อ ออกเป็นผลเดี่ยว มีลักษณะเกือบทรงกลม ขั้วผลสอบแคบ ซึ่งไม่ใช่ผลจริง เพราะเป็นผลที่ไม่ได้เกิดจากการผสมเกสร แต่เป็นผลที่พัฒนามาจากฐานรองดอกที่เป็นก้านช่อดอกโค้งเข้าหากัน แต่ก็มีมะเดื่อฝรั่งชนิดผลจริงที่เกิดจากการผสมเกสร ดังนั้น ผลที่เราเห็นก็คือส่วนของก้านช่อดอกที่มีลักษณะพองใหญ่ห่อหุ้มผลด้านในไว้ เพราะผลจริงคือเมล็ดที่มีขนาดเล็กอยู่ด้านใน โดยในแต่ละผลจะมีเมล็ดประมาณ 1000-1,500 เมล็ดต่อผล
ผลด้านนอกหรือผลเทียมมีลักษณะเป็นเปลือกหุ้มหนาหรือบางขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เปลือกผลมีลักษณะอ่อนนุ่ม ด้านในผลกลวง ซึ่งมีเมล็ดขนาดเล็กแทรกอยู่จำนวนมาก เนื้อผลมีรสหวานอมเปรี้ยว ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทาน