มะเดื่อ/มะเดื่อฝรั่ง (Fig)
มะเดื่อ เป็นพืชสกุลเดียวกับไทร และโพธิ์ คือ สกุล Ficus และวงศ์ Moraceae ที่มีมากกว่า 1,000 ชนิดทั่วโลก มีถิ่นกำเนิด และแพร่กระจายในประเทศเขตร้อนในทุกทวีป แต่พบมากในแถบประเทศเอเชีย โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตัวอย่างไม้สกุลนี้ ได้แก่
1. มะเดื่อฝรั่ง (พันธุ์จากต่างประเทศที่นิยมปลูกรับประทานผลมากที่สุด)
2. มะเดื่อปล้อง (Ficus hispida Linn. f.)
3. มะเดื่ออุทุมพร (Ficus racemosa Linn.)
4. มะเดื่อขน (F. hirta Nahl)
5. ตีนตุ๊กแก (F. pumila Linn.
มะเดื่อฝรั่ง
• วงศ์ : Moraceae (วงศ์เดียวกับหม่อน)
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus carica L.
• ชื่อสามัญ : Fig
• ชื่อท้องถิ่น : มะเดื่อฝรั่ง, มะเดื่อเทศ
ที่มา
ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย
มะเดื่อฝรั่งไม้ผลกึ่งร้อน (Subtropical fruit) ผลัดใบ ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศทวีปเอเชียตะวันตก และบริเวณทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ที่มา : (1) )
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น
มะเดื่อฝรั่ง เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งมากเป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง ลำต้นสูงประมาณ 3-10 เมตร เปลือกลำต้นเป็นสีเทาอมน้ำตาล และมียางสีขาว ส่วนแก่นไม้เป็นไม้เนื้ออ่อน ไม่นิยมใช้ในการก่อสร้างหรือแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์
ใบ
มะเดื่อฝรั่ง เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ แตกใบออกเดี่ยว เรียงสลับกันตามปลายกิ่ง มะเดื่อออกเป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวมีความกว้าง 20-25 เซนติเมตร และยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างหนา และค่อนข้างแข็ง แผ่นใบขรุขระสากมือ แผ่นใบด้านล่างมีขนปกคลุม ส่วนขอบใบหยักลึก 3-7 หยัก
ดอก
มะเดื่อฝรั่งมีดอกคล้ายผล ที่ทำให้มองเห็นเป็นดอกเดี่ยว แต่แท้จริงคือดอกรวมที่เจริญจากส่วนของก้านช่อดอกบริเวณฐานรองดอกพัฒนามาหุ้มดอกไว้ ด้านบนดอกมีช่องเปิด ภายในดอกมีดอกย่อยจำนวนมาก
ผล และเมล็ด
ผลมะเดื่อ ออกเป็นผลเดี่ยว มีลักษณะเกือบทรงกลม ขั้วผลสอบแคบ ซึ่งไม่ใช่ผลจริง เพราะเป็นผลที่ไม่ได้เกิดจากการผสมเกสร แต่เป็นผลที่พัฒนามาจากฐานรองดอกที่เป็นก้านช่อดอกโค้งเข้าหากัน แต่ก็มีมะเดื่อฝรั่งชนิดผลจริงที่เกิดจากการผสมเกสร ดังนั้น ผลที่เราเห็นก็คือส่วนของก้านช่อดอกที่มีลักษณะพองใหญ่ห่อหุ้มผลด้านในไว้ เพราะผลจริงคือเมล็ดที่มีขนาดเล็กอยู่ด้านใน โดยในแต่ละผลจะมีเมล็ดประมาณ 1000-1,500 เมล็ดต่อผล
ผลด้านนอกหรือผลเทียมมีลักษณะเป็นเปลือกหุ้มหนาหรือบางขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เปลือกผลมีลักษณะอ่อนนุ่ม ด้านในผลกลวง ซึ่งมีเมล็ดขนาดเล็กแทรกอยู่จำนวนมาก เนื้อผลมีรสหวานอมเปรี้ยว ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทาน
ชนิดของมะเดื่อฝรั่ง
1. Adriatic fig
Adriatic fig เป็นมะเดื่อฝรั่งที่เป็นผลเทียมอันพัฒนามาจากก้านช่อดอก เมล็ดมีแต่ endocarp เท่านั้น และไม่มีคัพภะ เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกเพื่อการค้า และนิยมรับประทานในปัจจุบัน สายพันทางการค้าที่พบปลูกมาก ได้แก่
– Brown Turkey
– Burnswick
– Kadota
– Mission
– Black Genoa
– White Adriatic
– White Marseilles
– Dauphine
ประโยชน์มะเดื่อ/มะเดื่อฝรั่ง
1. ผลมะเดื่อฝรั่งมีขนาดใหญ่ เนื้อผลมีรสหวานอมเปรี้ยว นิยมใช้รับประทานเป็นผลไม้สด ส่วนมะเดื่อชนิดอื่นที่นิยมรับประทานเช่นกัน อาทิ มะเดื่อปล้องหิน มะเดื่ออุทุมพร และมะเดื่อขน เป็นต้น
2. ผลมะเดื่อนำมาปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่ม
3. ผลมะเดื่อใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ มะเดื่ออบแห้ง มะเดื่อบรรจุกระป๋อง ไวน์ และแยม เป็นต้น
4. ยางจากลำต้นใช้ทำผลิตภัณฑ์ยาง อาทิ ต้นยางอินเดีย แต่มีคุณภาพน้อยกว่าต้นยางพารา
5. น้ำยางจากมะเดื่อบางชนิด (ต้นผูก) ใช้สำหรับย้อมผ้า และทำเทียน
6. เปลือกมะเดื่อใช้สำหรับทำกระดาษ อาทิ ในเม็กซิโกใช้เปลือกมะเดื่อ Ficus สำหรับทำกระดาษอะเมาท์ (amalt)
7. เปลือกมะเดื่อบางชนิดใช้ทำผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มหรือของใช้ อาทิ เปลือกมะเดื่อ Ficus nekbuda ใช้ทำโสร่ง และถุงทะเล
8. น้ำยางจากเปลือกมะเดื่อถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ เพราะมีสาร figcin ที่สามารถช่วยย่อยโปรตีนได้
9. มะเดื่อบางชนิดหรือต้นมะเดื่อฝรั่งที่ได้จากการตอนกิ่งจะมีลำต้นไม่สูงมาก กิ่งสามารถดัดให้โค้งงอได้ จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับหรือเป็นไม้แคระเช่นกัน
10. ต้นมะเดื่อที่ปลูกด้วยเมล็ดจะมีลำต้นสูง ลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มใหญ่ จึงใช้ปลูกเพื่อให้ร่มเงาตามสวนสาธารณะหรือตามสวนหลังบ้าน
11. มะเดื่อหลายชนิดตามธรรมชาติถือได้ว่าเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์ป่า
12. ไม้ในสกุลมะเดื่อที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ และศาสนา คือ ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระพุทธองค์ใช้นั่งบำเพ็ญเพียรจนนำมาสู่การตรัสรู้ จึงจัดเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญ และเป็นที่เคารพของชาวพุทธ
เพิ่มเติมจาก (4)
คุณค่าทางโภชนาการมะเดื่อฝรั่ง (100 กรัม)
มะเดื่อฝรั่งดิบ | มะเดื่อฝรั่งอบแห้ง | ||
Proximates | |||
น้ำ | กรัม | 79.1 | 30.05 |
พลังงาน | กิโลแคลอรี่ | 74 | 249 |
โปรตีน | กรัม | 0.75 | 3.30 |
ไขมัน | กรัม | 0.30 | 0.93 |
คาร์โบไฮเดรต | กรัม | 19.18 | 63.87 |
เส้นใย | กรัม | 2.9 | 9.8 |
น้ำตาลทั้งหมด | กรัม | 16.26 | 47.92 |
Minerals | |||
แคลเซียม | มิลลิกรัม | 35 | 162 |
เหล็ก | มิลลิกรัม | 0.37 | 2.03 |
แมกนีเซียม | มิลลิกรัม | 17 | 68 |
ฟอสฟอรัส | มิลลิกรัม | 14 | 67 |
โพแทสเซียม | มิลลิกรัม | 232 | 680 |
โซเดียม | มิลลิกรัม | 1 | 10 |
สังกะสี | มิลลิกรัม | 0.15 | 0.55 |
Vitamins | |||
วิตามิน C | มิลลิกรัม | 2.0 | 1.2 |
ไทอะมีน | มิลลิกรัม | 0.060 | 0.085 |
ไรโบฟลาวิน | มิลลิกรัม | 0.050 | 0.082 |
ไนอะซีน | มิลลิกรัม | 0.400 | 0.619 |
วิตามิน B-6 | มิลลิกรัม | 0.113 | 0.106 |
โฟเลต | ไมโครกรัม | 6 | 9 |
วิตามิน B-12 | ไมโครกรัม | 0.00 | 0.00 |
วิตามิน A, RAE | ไมโครกรัม | 7 | 0.00 |
วิตามิน A, IU | IU | 142 | 10 |
วิตามิน E | มิลลิกรัม | 0.11 | 0.35 |
วิตามิน D (D2 + D3) | ไมโครกรัม | 0.00 | 0.0 |
วิตามิน K | ไมโครกรัม | 4.7 | 15.6 |
Lipids | |||
กรดไขมันอิ่มตัวทั้งหมด | กรัม | 0.060 | 0.144 |
กรดไขมันอิ่มตัว ชนิดสายเดี่ยวทั้งหมด | กรัม | 0.066 | 0.159 |
กรดไขมันอิ่มตัว ชนิดหลายสายทั้งหมด | กรัม | 0.144 | 0.345 |
คอลเลสเตอรอล | มิลลิกรัม | 0 | 0 |
Caffeine | มิลลิกรัม | 0 | 0 |
ที่มา : มะเดื่อฝรั่งดิบ : USDA Nutrient Database, มะเดื่อฝรั่งอบแห้ง : USDA Nutrient Database
สารสำคัญที่พบ (ผลมะเดื่อฝรั่ง)
สารประกอบฟีนอลิก
– Gallic acid
– Syringic acid
– Ellagic acid
– Chlorogenic acid
– Quercetin
– Rutin
– Quercetin-3-O-glucoside
– Kaempferol-3- O-glucoside
– (-)-Epicatechin
– (+)-Catechin
– Luteolin-8- C-glucoside
– Cyanidin-3-glucoside
– Cyanidin-3-rutinoside
– Cyanidin 3,5-diglucoside
– Pelargonidin 3-O-glucoside
– Pelargonidin 3-O- rutinoside
– Peonidin 3-O-rutinoside
สารระเหยชนิดต่างๆ
ชนิดสารระเหย | มะเดื่อฝรั่งแห้ง (ppm) | มะเดื่อฝรั่งสด (ppm) |
Hydrocarbons | ||
limonene | ไม่พบ | 0.005 |
(E)-caryophyllene | พบ | ไม่พบ |
α-pinene | ไม่พบ | พบ |
β -pinene | ไม่พบ | พบ |
α-cubenene | ไม่พบ | พบ |
copaene | ไม่พบ | พบ |
β -caryophyllene | ไม่พบ | พบ |
(E)-α-bergamotene | ไม่พบ | พบ |
(E)– α-caryophyllene | ไม่พบ | พบ |
τ-muurolene | ไม่พบ | พบ |
germacrene D | ไม่พบ | พบ |
τ-cadinene | ไม่พบ | พบ |
Ketones | ||
2-hexanone | 0.05 | ไม่พบ |
2-heptanone | 0.03 | ไม่พบ |
2-octanone | 0.03 | ไม่พบ |
(E,Z)-3,5-octadien-2-one | 0.03 | ไม่พบ |
(E,E)-3,5-octadien-2-one | 0.1 | 0.02 |
6-methyl-5-hepten-2-one | ไม่พบ | 0.01 |
(E)-2-methyl-2,4-heptadien-6-one | ไม่พบ | 0.09 |
geranylacetone | 0.05 | 0.04 |
3-hydroxy-2-butanone | พบ | พบ |
Alcohols | ||
methanol | น้อยกว่า 1 | 5 |
ethanol | น้อยกว่า 10 | 144 |
hexanol | ไม่พบ | 0.05 |
(Z)-3-hexenol | ไม่พบ | 0.01 |
heptanol | ไม่พบ | 0.005 |
1-octen-3-ol | 0.1 | ไม่พบ |
octanol | 0.03 | 0.02 |
nonanol | 0.02 | 0.08 |
linalool | 0.02 | ไม่พบ |
2-phenylethanol | ไม่พบ | 0.06 |
benzyl alcohol | พบ | พบ |
caryophyllene alcohol | พบ | ไม่พบ |
3-phenyl-2-propen-1-ol | พบ | ไม่พบ |
eugenol | พบ | พบ |
2,3-butanediol | ไม่พบ | พบ |
1-penten-3-ol | ไม่พบ | พบ |
(Z)-3-hexen-1-ol | ไม่พบ | พบ |
3-methyl-1-butanol | ไม่พบ | พบ |
(E)-2-nonen-1-ol | ไม่พบ | พบ |
menthol | ไม่พบ | พบ |
Aldehydes | ||
acetaldehyde | น้อยกว่า 1 | 7-40 |
hexanal | 0.3 | 0.04 |
heptanal | 0.1 | 0.03 |
octanal | 0.1 | 0.01 |
nonanal | 0.2 | 0.08 |
(E)-2-hexenal | ไม่พบ | 0.005 |
(E)-2-heptenal | 0.1 | 0.03 |
(E)-2-octenal | 0.2 | 0.06 |
(E)-2-nonenal | 0.05 | 0.03 |
(E)-2-decenal | 0.1 | 0.2 |
(E)-2-undecenal | 0.04 | 0.04 |
(E,Z)-2,4-heptadienal | 0.05 | 0.1 |
(E,E)-2,4-heptadienal | 0.1 | 0.1 |
(E,E)-2,4-nonadienal | ไม่พบ | 0.03 |
(E,Z)-2,4-decadienal | ไม่พบ | 0.06 |
(E,E)-2,4-decadienal | 0.15 | 0.2 |
(E,Z)-2,6-nonadienal | ไม่พบ | พบ |
benzaldehyde | 1.8 | 0.3 |
3-phenylpropanal | 0.05 | ไม่พบ |
cinnamaldehyde | พบ | ไม่พบ |
3-methyl-butanal | ไม่พบ | พบ |
2-methyl-butanal | ไม่พบ | พบ |
2-methyl-2-butanal | ไม่พบ | พบ |
(E)-2-pentenal | ไม่พบ | พบ |
(E)-2-heptanal | ไม่พบ | พบ |
β-cyclocitral | ไม่พบ | พบ |
Esters | ||
methyl acetate | น้อยกว่า 1 | 4 |
ethyl acetate | น้อยกว่า 1 | 9 |
ethyl hexanoate | 0.05 | 0.02 |
ethyl phenylacetate | ไม่พบ | 0.05 |
isobutyl acetate | พบ | ไม่พบ |
isopentyl acetate | พบ | ไม่พบ |
2-methylbutyl acetate | พบ | ไม่พบ |
propyl acetate | พบ | ไม่พบ |
ethyl butanoate | พบ | ไม่พบ |
methyl butanoate | พบ | ไม่พบ |
ethyl 2-methylbutanoate | พบ | ไม่พบ |
isobutyl 3-methylbutanoate | พบ | ไม่พบ |
ethyl petanoate | พบ | ไม่พบ |
ethyl propanoate | พบ | ไม่พบ |
ethyl 2-methylpropanoate | พบ | ไม่พบ |
methyl hexanoate | ไม่พบ | พบ |
methyl salicylate | ไม่พบ | พบ |
ethyl salicylate | ไม่พบ | พบ |
Acids | ||
hexanoic acid | 0.05 | ไม่พบ |
heptanoic acid | 0.04 | ไม่พบ |
octanoic acid | 0.2 | ไม่พบ |
nonanoic acid | 0.15 | ไม่พบ |
decanoic acid | 0.1 | ไม่พบ |
acetic acid | ไม่พบ | พบ |
hexadecanoic acid | ไม่พบ | พบ |
Ethers | ||
eucalyptol | ไม่พบ | พบ |
Phenols | ||
2-methoxy-4-vinylphenol | ไม่พบ | พบ |
Lactones | ||
4-hydroxybutanoic acid lactone | ไม่พบ | พบ |
4-hydroxy-5-oxohexanoic acid lactone | ไม่พบ | พบ |
Furans | ||
linalool oxide | 0.1 | ไม่พบ |
2-pentylfuran | 0.05 | 0.01 |
epoxylinalool | ไม่พบ | พบ |
Bases | ||
n-ethyl-2-formylpyrolle | 0.2 | ไม่พบ |
indole | พบ | ไม่พบ |
ที่มา : (2) อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ
สรรพคุณมะเดื่อ/มะเดื่อฝรั่ง
ผลมะเดื่อ
– แก้อาการท้องร่วง
– ใช้ล้างบาดแผล ใช้ทารักษาแผล ช่วยสมานแผล
– ใช้เป็นยาแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ
– ช่วยรักษาฝี
– ใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย
– แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
– ใช้เป็นยาระบาย
– ผลใช้ทาแก้อาการฟกช้ำ
• สารประกอบฟีนอลิกในผลมะเดื่อ และมะเดื่อฝรั่ง มีคุณสมบัติในด้านต่างๆ ได้แก่
– ต้านโรคมะเร็ง
– ต้านโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
– ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทเสื่อม
– ส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์ประสาท
– กระตุ้นความทรงจำ
– ต้านโรคอัลไซเมอร์
– ช่วยป้องกันหลอดเลือดแดงแข็ง
– ต้านการอักเสบ
เปลือก และแก่นลำต้นมะเดื่อ
– ใช้ต้มน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการปวดท้อง
– น้ำต้มดื่ม แก้อาการโรคบิด
– น้ำต้มดื่มช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
– เปลือกลำต้นมานำประคบแผลสำหรับช่วยห้ามเลือด
ใบมะเดื่อ
– ใบแห้งบดละเอียดนำมาผสมกับน้ำผึ้งรับประทาน ช่วยบำรุงน้ำดี
รากมะเดื่อ
– ใช้ทำยาแก้พิษจากปลา
ที่มา : (2), (3), (4)
การปลูกมะเดื่อฝรั่ง
มะเดื่อหลายชนิดตามธรรมชาติจะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ส่วนมะเดื่อฝรั่งที่นิยมปลูกในปัจจุบัน สามารถปลูกได้ทั้งจากเมล็ด และจากต้นพันธุ์ตอนกิ่ง ต้นพันธุ์ปักชำ หรือต้นพันธุ์จากการเสียบยอด
การเพาะเมล็ด
การตอนกิ่ง
การปักชำกิ่ง
รอเพิ่มข้อมูล
การเก็บผลมะเดื่อฝรั่ง
หลังจากติดผลแล้วจะใช้เวลาประมาณ 14 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บผลได้
ผลมะเดื่อฝรั่งจะออกได้ถึง 2 รุ่น คือ
– รุ่นแรก จะออกในช่วงเดือนมีนาคม และเก็บผลได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม
– รุ่นแรก จะออกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน และทยอยเก็บผลได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-มกราคม ซึ่งรุ่นนี้จะให้ผลมากกว่ารุ่นแรกมาก (ที่มา : (1) )
ขอบคุณภาพจาก : http://sbobetinc.net/, technologychaoban.com/, BlogGang.com/, namofig.lnwshop.com/, matichon.co.th/, sompothpanmai.com/
เอกสารอ้างอิง
(1) สุรินทร์ นิลสำราญจิต, จารุพันธุ์ ทองแถม และปวิณ ปุณศรี, 2528, การเจริญเติบโตของมะเดื่อฝรั่ง-
ซึ่งปลูกบนพื้นที่สูงของประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
(2) จารุวรรณ์ รัตนสกุลธรรม, 2555, ผลของสายพันธุ์และการทำแห้งต่อสารประกอบ-
ฟีนอลิก ความสามารถต้านออกซิเดชัน-
และสารระเหยของผลมะเดื่อฝรั่ง, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
(3) วิรัตน์ ภูวิวัฒน์, 2527, การศึกษาชนิดและการประเมินค่าไทรและ-
มะเดื่อพื้นเมืองบนดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
(4) ภานุมาศ จันทร์สุวรรณ, 2550, ความหลากชนิดและการประเมินถิ่นที่อยู่-
ที่เหมาะสมของไม้สกุลมะเดื่อ ในสถานีวิจัยลุ่มน้ำแม่กลอง-
อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กษณะของมะเดื่อ
- ต้นมะเดื่อ เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง พบมากในประเทศตุรกีและกรีก จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นจะเป็นปุ่มแตกกิ่งก้านออก ลำต้นมียางสีขาว ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยวหนาค่อนข้างแข็ง ด้านหนึ่งมีขนอ่อน ส่วนผิวด้านบนจะหยาบ ขอบใบหยักลึก 3-5 หยัก ส่วนผลมะเดื่อจะออกเป็นกระจุก ผลกลมแป้นหรือรูปไข่ มีเปลือกบาง โดยผลอ่อนจะสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ด้านในมีเนื้อสีแดงเข้ม เมื่อสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม นอกจากนี้มะเดื่อยังจัดเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอียิปต์ อิตาลี และกรีซอีกด้วย
- ผลมะเดื่อ


สำหรับประเทศไทยได้มีการนำเข้ามะเดื่อแห้งจากต่างประเทศ และได้มีการทดลองปลูกครั้งแรกที่ดอยอ่างขางเมื่อ พ.ศ.2524 โดยมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น นอกจากนี้มะเดื่อยังเป็นผลไม้ต่างถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วย
สรรพคุณของมะเดื่อฝรั่ง
- ช่วยบำรุงร่างกายและต่อต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยทำให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติและช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากมีธาตุเหล็กและโฟเลตสูง
- ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ช่วยปรับสมดุลของกรดด่างในร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
- ช่วยสมานแผลในช่องปาก
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
- ใช้เป็นยาระบาย ป้องกันอาการท้องผูก
- ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ช่วยป้องกันนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ช่วยฟอกตับและม้าม
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคกามโรค
- เชื่อว่าลูกมะเดื่อสามารถช่วยเสริมสร้างพลังทางเพศ
- ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเต้านมในหญิงวัยทอง
ประโยชน์ของมะเดื่อฝรั่ง
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดปริมาณการใช้อินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง
- มะเดื่อเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีคอเลสเตอรอลและไขมันน้อยมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคตับ จึงรับประทานได้
- ช่วยคงความอ่อนเยาว์และชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
- มะเดื่อมีแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซม และเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ
- ในประเทศอินเดียนิยมใช้ใบมะเดื่อมารับประทานเป็นอาหาร
- ประโยชน์มะเดื่อ เปลือกของมะเดื่อสามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้
- ประโยชน์ของมะเดื่อ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ทำขนมได้อีกด้วย เช่น พาย แยม อบแห้ง ผลไม้กวน พุดดิง เค้ก ไอศกรีม ใช้ผสมในชาไข่มุก ใส่ขนมแทนลูกเกด ผลแห้งนำไปคั่วแล้วนำมาป่นใช้แทนกาแฟ เป็นต้น
คุณค่าทางโภชนาการของมะเดื่อฝรั่งแห้ง ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 249 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 63.87 กรัม
- น้ำตาล 47.92 กรัม
- เส้นใย 9.8 กรัม
- ไขมัน 0.93 กรัม
- โปรตีน 3.3 กรัม
- วิตามินบี 1 0.085 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี 2 0.082 มิลลิกรัม 7%
- วิตามินบี 3 0.619 มิลลิกรัม 4%
- วิตามินบี 5 0.434 มิลลิกรัม 9%
- วิตามินบี 6 0.106 มิลลิกรัม 8%
- วิตามินบี 9 9 ไมโครกรัม 2%
- โคลีน 15.8 มิลลิกรัม 3%
- วิตามินซี 1.2 มิลลิกรัม 1%
- วิตามินเค 15.6 ไมโครกรัม 15%
- ธาตุแคลเซียม 162 มิลลิกรัม 16%
- ธาตุเหล็ก 2.03 มิลลิกรัม 16%
- ธาตุแมกนีเซียม 68 มิลลิกรัม 19%
- ธาตุแมงกานีส 0.51 มิลลิกรัม 24%
- ธาตุฟอสฟอรัส 67 มิลลิกรัม 10%
- ธาตุโพแทสเซียม 680 มิลลิกรัม 14%
- ธาตุโซเดียม 10 มิลลิกรัม 1%
- ธาตุสังกะสี 0.55 มิลลิกรัม 6%
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น