ด.ช.

ด.ช.
เฟส

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ต้นหมาก


 

ต้นหมาก

 

 ชื่อวิทยาศาสตร์ : Areca catechu Linn

  วงศ์ : PALMAE

  ชื่อสามัญ : Betel nut , Areca palm

   ชื่อท้องถิ่น : หมากเมีย(ทั่วไป) หมากเมีย มะ(ซอง-ตราด) เค็ด สะลา พลา(เขมร)ปีแน(มลายู)

 ลักษณะของต้นหมาก

·   ต้นหมาก มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียเขตร้อน จัดเป็นไม้ยืนต้นจำพวกปาล์ม มีความสูงของต้นประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เป็นต้นเดี่ยวไม่แตกกิ่งก้าน ลักษณะของลำต้นเป็นรูปทรงกระบอก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-12 เซนติเมตร เปลือกลำต้นเป็นรอยขวั้นรอบ ๆ ขึ้นไปตลอดลำต้น ในระยะแรกจะเจริญเติบโตด้านกว้างและด้านสูง แต่หลังจากหยุดการเจริญเติบโตจะเจริญเติบโตด้านความสูง ต้นหมากมีตายอดส่วนปลายสุดของลำต้น ถ้ายอดตายหมากจะตาย ตายอดจะเป็นที่เกิดของใบหลังจากใบร่วงหล่นจะทิ้งรอยติดของใบไว้ เรียกว่าข้อ ข้อของต้นหมากสามารถคำนวณหาอายุหมากได้ 1 ปี โดยหมากจะมีใบหรือข้อเพิ่มขึ้น 5 ใบ หรือ 5 ข้อ ต้นหมากจะมีเนื้อเป็นเสี้ยนยาวจับตัวกันแน่นบริเวณเปลือกนอกลึกเข้าไปประมาณ 2 เซนติเมตร แต่ส่วนกลางของลำต้นเป็นเสี้ยนไม่อัดแน่น และมีเนื้อไม้อ่อนนุ่มคล้ายกับฟองน้ำ จึงทำให้ต้นหมากเหนียวและสามารถโยกเอนได้มาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลสูงกว่า 700 เมตร

 

ใบหมาก 

        ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายยอด ก้านใบรวมยาวได้ประมาณ 130-200 เซนติเมตร ลักษณะของใบย่อยรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบเรียวแคบ ใบอ่อนมีรอยแยก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 50-70 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบหนา กาบใบหุ้ม

สรรพคุณของหมาก

1.    ผลอ่อนมีรสฝาดหวาน สรรพคุณเป็นยาช่วยทำให้เจริญอาหาร (ผล)[1]

2.    เปลือกผลมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ (เปลือกผล)[3]

3.   รากมีรสฝาดเย็น มีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคกษัย (ราก)[1]

4.     ผลใช้เป็นยาแก้โรเบาหวาน ด้วยการใช้หมากที่กินกับพลูแบบสด 1 ลูก นำมาผ่าเป็น 4 ซีก ต้มกับน้ำ 1 ลิตร จนเดือดหรือประมาณ 10 นาที ใช้ดื่มก่อนอาหารครั้งละครึ่งแก้วเช้า กลางวัน และเย็น เมื่อนำตาลในเลือดลดลงก็ให้นำมาต้มดื่มแบบวันเว้นวันได้ ซึ่งหมากจะมีฝาด จึงช่วยสมานแผลของผู้เป็นโรคเบาหวานให้หายเร็วขึ้นได้อีกด้วย (ผล)[13]

5.    ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ แก้หวัด (ใบ)[2]

6.    รากหมากใช้ผสมกับรากมะพร้าว รากมะกอก รากมะปรางเปรี้ยว รากมะปรางหวาน ลูกกระจับน้ำ ลูกบัวหลวง เกสรบัวหลวง และหัวแห้ว ใช้กินเป็นยาแก้พิษผิดสำแดงไข้ (ราก)[2]

7.    รากนำมาต้มกับน้ำเป็นยาแก้พิษร้อนภายใน แก้พิษไข้และอาบเป็นยาแก้ไข้ แก้หวัดก็ได้

8.     หมากมีสรรพคุณในการรักษาโรคมาลาเรีย ช่วยขับเหงื่อ

9.     ดอกเพศผู้ เป็นยาหอม ช่วยแก้กระหายน้ำ

 

การป้องกันกำจัด

1. สวนหมากไม่ควรให้มีสภาพแน่นทึบเกินไป ให้มีอากาศถ่ายเท แสงแดดส่องไม่ถึงพื้น

2. เก็บทำลายส่วนที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ เช่น ผลเน่าเสียที่ร่วงหล่นโดยการเผาทำลาย

3. ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น ไชแรม เทอร์ราคลอร์ หรือ เทอร์ราโซน

4. หมากที่เป็นโรคมีอาการมากป้องกันกำจัดไม่ได้ให้โค่นเผาทำลายบริเวณต้นที่เป็นโรคให้ราดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา

แมลง

แมลงศัตรูหมากมีหลายชนิด ได้แก่

1. หนอนปลอกกินใบหมาก จะกัดกินใบเหลือแต่ก้าน โคนสร้างเกราะหุ้มตัวไม่ระบาดฤดูฝน การป้องกันกำจัดใช้สารเคมีพวกพาราไธออน อัตราผสมตามคำแนะนำฉีดพ่น

2. ปลวก ในดินมีปลวกอาศัยปลวกอาจจะเข้าไปกินเนื้อไม้ภายในต้นหมากทำให้ต้นหมากตาย การป้องกันกำจัดใช้สารเคมีพวก มาซูดิน ดรากอน ลอสแพน หรือเซฟวินโรยที่รังปลวก

ผลผลิต

การให้ผลผลิตหมากแบ่งออกได้ 2 ช่วง ซึ่งหมากจะให้ผลเกือบตลอดปี ขึ้นอยู่กับอายุของต้นหมาก สภาพแวดล้อม อายุและความอุดมสมบูรณ์ ช่วงการเก็บเกี่ยวมีดังนี้

1. หมากปี จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ช่วงผลผลิตหมากมาก กรกฎาคม - สิงหาคม

2. หมากทะวาย เริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม หมากทะวายจะมีราคาแพงกว่าหมากปี

การเก็บเกี่ยว

1. ใช้คนปีนขึ้นไปเก็บบนต้น การปีนต้นหมากเหมือนปีต้นมะพร้าว อาจใช้เท้าเปล่าหรือปลอกสรวมเพื่อผ่อนแรง และพักกลางลำต้น ถึงคอหมากจะรองหน้าหมากโดยเก็บมาผ่าดูว่าแก่พอดีหรือไม่ ถ้าใช้ได้ก็จะตัดทะลาย โดยเฉือนบริเวณขั้วให้เกือบขาดแล้วกระชากโยนลงน้ำในร่องสวนหรือวางบนเข่าแล้วเป็นลงมา

2. ใช้ตะขอสอย โดยใช้ไม้ไผ่ทำเป็นด้ามยาวตามความต้องการ ปลายมีตะขอเหล็กลักษณะคล้ายเคียวติดอยู่ใช้โดยให้ตะขอเกี่ยวที่ขั้วทะลายแล้วกระชากให้ขาดล่วงลงมา โดยโคนต้นหมากจะมีคน 2 คน ถือกระสอบรอรับหมากที่หล่นลงมาไม่ให้กระแทกกับพื้น

การทำหมากแห้ง

ผลผลิตหมากนอกจากจำหน่ายเป็นหมากสดหรือหมากดิบก็จะหน่ายเป็นหมากแห้ง การทำหมากแห้งทำได้หลายวิธี

1. หมากแห้งที่ทำจากหมากดิบ มี 5 ชนิด

หมากซอย

หมากกลีบสับ

หมากเสี้ยว หรือหมากเจียน

หมากจุก

หมากป่น

2. หมากแห้งที่ทำจากหมากแก่หรือหมากส่ง มี 4 ชนิด

หมากหั่นหรือหมากอีแปะ

หมากผ่าสองหรือหมากผ่าซีก

หมากผ่าสี่

หมากแห้งทั้งเมล็ด

อัตราส่วนหมากดิบทำเป็นหมากแห้ง

หมากสด 1,000 ผล ทำหมากแห้งได้ 5 กิโลกรัม

หมากสง 1,000 ผล ทำหมากแห้งได้ 14 – 15 กิโลกรัม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

        หมากเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว  ไม่มีราคแก้ว รากฝอยกระจายรอบโคนต้นมากน้อยขึ้นอยู่กับอายุและความอุดมสมบูรณ์ของดิน กรณีมีน้ำท่วมขังหมากสามารถสร้างรากอากาศได้ ถึงอย่างไรก็ตามไม่ควรให้น้ำท่วมขังนาน

 

ลำต้น 

หมากเป็นไม้ยืนต้นมีลำต้นเดี่ยวไม่แตกกอ  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 นิ้ว  ระยะแรกจะมีการเจริญ

โตด้านกว้างและด้านสูง  หลังจากหยุดเจริญเติบโตจะเจริญเติบโตด้านความสูง รูปทรงกระบอกตรง  หมากมีตายอดส่วนปลายสุดของลำต้นถ้ายอดตายหมากจะตาย  ตากยอดจะเป็นที่เกิดของใบหลังจากใบร่วงหล่นจะทิ้งรอยติดของใบเรียกว่าข้อ  ข้อของหมากสามารถคำนวณหาอายุหมากได้ ปี หมากจะมีใบหรือข้อเพิ่มขึ้น ใบ หรือ ข้อ ต้นหมากมีเนื้อเป็นเสี้ยนยาว ๆ จับตัวกันแน่นบริเวณเปลือกนอกลึกเข้าไปประมาณ เซนติเมตร  ส่วนกลางลำต้นเป็นเสี้ยนไม่อัดแน่นเหมือนด้านนอกและมีเนื้อไม้อ่อนนุ่นคล้ายฟองน้ำทำให้ต้นหมากเหนียวและสามารถโยกโอนเอนได้มาก

 

ใบ

 เกิดจากเนื้อเยื่อส่วนปลายยอด  ปลายลำต้นประกอบด้วยโคนกาบใบเรียกว่ากาบหมากหุ้มติดลำต้นเป็น

แผ่นใหญ่ ก้านประกอบด้วยใบย่อย  เมื่อหมากออกดอก ดอกหรือภาษาท้องถิ่นเรียกจั่นหมาก  ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยกาบหมาก  เมื่อกาบหมากแก่หลุดร่วงไปจะเห็นดอกหมาก

 

ดอก 

ดอกหมากหรือจั่นหมากเกิดบริเวณซอกโคนก้านใบหรือกาบหมาก  ดอกออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ประกอบด้วยโคนจั่นยึดติดอยู่ที่ข้อของลำต้น  ก้านช่อดอกเป็นเส้นยาวแตกออกโดยรอบแกนกลาง  ก้านช่อดอกจะมีทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย  โดยตัวผู้อยู่ส่วนปลายตัวเมียอยู่ด้านล่างหรือด้านใน  ดอกตัวผู้ใช้เวลานาน 21 วัน หลังจากนั้น วัน ดอกตัวเมียเริ่มบาน

 

ผล 

ผลหมากมีลักษณะกลมหรือกลมรี  เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 – 2.5 โดยเฉลี่ยผลรวมกันเป็นทะลาย ใน 1

ทะลายจะมีผลอยู่ประมาณ 10 – 150 ผล  ผลอ่อนสีเขียวเข้ม เรียกหมากดิบ  ผลแก่จะผิวเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มทั้งผลเรียกหมากสุกหรือหมากสง  ผลประกอบด้วย  ส่วน คือเปลือกชั้นนอก ส่วนเปลือกเป็นเยื่อบาง ๆ สีเขียว เนื้อเปลือกมีเส้นใยละเอียด เหนียว  เปลือกชั้นกลางเป็นเส้นใยหนามากมองเห็นชัด  เมื่อผลอ่อนเส้นใยอ่อน แก่จะเหนียวแข็ง เปลือกชั้นในเป็นเยื่อบาง ๆ ละเอียดติดอยู่กับเนื้อหมาก  ส่วนของเมล็ดหรือเนื้อหมากถัดจากเยื่อบาง ๆ เข้าไปเป็นส่วนของเนื้อหมาก เมื่ออ่อนจะนิ่ม  เนื้อส่วนผิวจะมีลายเส้นสีเหลืองถึงสีน้ำตาล  เนื้อจะมีสีเหลืองอ่อน ๆ ถึงสีเหลืองเข้มอมแดง

 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น